Business Continuity with VMware vSAN HCI

Phubet Pramuean
3 min readMay 15, 2020

--

3 สิ่งควรรู้! VMware vSAN HCI สามารถช่วยคุณเรื่องในการทำ Business Continuity ได้

Photo by GEORGE DESIPRIS from Pexels

ภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ไม่ว่าจะเป็น พายุ, ไฟไหม้, น้ำท่วม หรือแม้กระทั่งภัยพิบัติที่มาในรูปแบบของเชื้อโรคที่เราเจอกันอย่าง COVID-19 นี้ แต่ธุรกิจยังคงต้องดำเนินต่อไปและต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ให้เข้ากับ New Normal ที่จะตามมา

จากมุมมองของคนที่ทำงานในแวดวง IT มากกว่า 10 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่าระบบ IT Infrastructure นั้นต้องมีความรวดเร็วยืดหยุ่น (Agile) และต้องไม่ซับซ้อน (Less Complexity) ซึ่งระบบ 3-Tier Architecture แบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้

จากผลการสำรวจของ 451 Research ระบุว่า ภายในปี 2021 บริษัทต่างๆ มีแผนในการใช้งาน HCI เพิ่มมากขึ้น โดยจะมีส่วนแบ่งถึง 50% ใน Infrastrture ของบริษัทเหล่านั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าตอนนี้ HCI ได้กลายเป็นกระแสหลักของการสร้าง Data Center ยุคใหม่ไปแล้ว

เราลองมาดูกันว่าในช่วงที่มีวิกฤตการณ์แบบนี้ VMware vSAN HCI สามารถช่วยให้ธุรกิจยังคงสามารถดำเนินต่อไปอย่างไรได้บ้าง

1.Unlock burst-capacity options

Photo by Pixabay

ในแต่ละธุรกิจล้วนแตกต่างและมีความต้องการไม่เหมือนกัน บางครั้งต้องการ Performance เพื่อตอบโจทย์คนที่เข้ามาใช้งานเพิ่มมากขึ้น บางครั้งต้องการให้ Workload ของตัวเองย้ายขึ้นไปบน Public Cloud ได้ที่จะไปใช้ Services บางอย่างได้ของ Cloud โดยไม่ต้องเสียเวลาทำเอง แต่ในบางธุรกิจห้ามย้ายงานขึ้น Cloud เพราะติดเรื่อง Security แต่ดันต้องการ Perfomance เพิ่ม สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดมีหนึ่งอย่างที่สำคัญคือต้องตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน (Cost) ด้วย

VMware vSAN HCI สร้างสิ่งที่เรียกว่า Core-HCI ให้กับธุรกิจโดยลดความยุ่งยากซับซ้อนในการขึ้นระบบเพราะเป็นการรวม Compute และ Storage ไว้ในเครื่องเดียวกัน สามารถขยาย (Scaling) ระบบออกไปได้ทั้ง Performance และ Capacity ซึ่งจะตอบโจทย์เป็นอย่างมาก หากอยู่ๆ ธุรกิจของเราได้รับความนิยมจากคนที่เข้ามาใช้งานในช่วงกักตัวอยู่บ้าน การขยายของ HCI นั้นก็เพียงเพิ่ม Node เข้าไปเราก็จะได้ทั้ง Perfoamance และ Capacity พร้อมกันโดยทุกอย่าง Automatic Scaling ให้ แต่ถ้าเป็น 3-Tier architecture เราอาจจะต้องคิดก่อนว่าจะขยายยังไงดี ต้องซื้ออะไรบ้าง แล้วมันต่อกันได้มั้ย?

ถ้าเรามี VMs ที่ติดตั้ง Application ของเราไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วอยากจะย้ายขึ้น Cloud อย่าง AWS จะทำยังไง เมื่อเราใช้ vSAN HCI อยู่แล้ว เราสามารถต่อยอดระบบของเราด้วยชุด VMware Cloud Foundation(VCF) ได้ โดย VCF นั้นคือการสร้าง Private Cloud เต็มรูปแบบโดยมีเรื่องของการทำ Software Define Network เข้ามา เพราะเมื่อเราจะย้าย VMs ไปยัง Public Cloud เราคงไม่เปลี่ยน IP ของเครื่องนั้นๆ NSX จะช่วยในการเชื่อต่อและย้าย Workload ไปมาระหว่าง Cloud ได้

บน Public Cloud อย่าง AWS, Azure หรือ Public Cloud อื่นๆ ก็ใช้ Software Stack ที่ชื่อว่า VMware Cloud Foundation นี้ Deploy ไปใน Cloud Infra. ของแต่ละที่ เมื่อ Infrastructure ทั้งสองฝั่งมีพื้นฐานเป็น VMware Stack แล้ว หากเรามีความต้องการใช้ Infra ที่เพิ่มมากจากปกติที่เรียกว่า Bursting แต่ Hardware ที่ Private Cloud ของเรามีไม่เพียงพอ เราสามารถใช้ HCX (Hybrid Cloud Extension) เพื่อย้าย Workload งานหรือ VM ของเราไปมาระหว่าง Cloud ได้ โดยที่ VMs หรือ Application ของเราไม่ต้องมีการแก้ไขอะไรเลย

2.Enable remote workers through desktop virtualization

Photo by Andrea Piacquadio from Pexels

ในสถานการณ์ที่ทุกคนต้องทำงานจากที่บ้าน การทำ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) กลับมามีความต้องการใช้งานสูงอีกครั้ง แต่การที่เราจะขึ้นระบบ Infrastructure ให้สามารถรองรับการใช้งาน VDI ให้ได้อย่างรวดเร็วนั้นแทบจะเป็นไม่ได้เลยหากเรายังใช้ Infrastructure แบบเดิม

จริงๆ ต้องบอกว่าระบบ HCI แต่แรกนั้นเกิดมาเพื่อระบบ VDI เลยก็ว่าได้ เพราะ HCI นั้นมีความง่ายในการ Sizing และง่ายในการ Implement ใช้งาน ลดความยุ่งยากซับซ้อนไปได้เยอะมาก อีกทั้งการ Scale ก็สามารถทำได้ง่าย และเมื่อใช้งานได้ดีกับงาน VDI แล้วระบบ HCI ก็เติบโตมาเรื่อยๆ จนตอนนี้สามารถรองรับ Critical Business Workload อย่าง Oracle RAC หรือ SAP HANA ได้สบาย

VMware เป็นผู้นำทั้งในเรื่อง HCI และ VDI อยู่แล้ว โดย Software ที่นำมาใช้ในการทำ VDI นั้นมีชื่อว่า Horizon โดยปัจจุบันนั้นเป็น Version ที่ 7 แล้ว ใน Version นี้มีการปรับปรุงเรื่อง Perfomance ขึ้นเป็นอย่างมาก จนเรียกว่าใช้ VDI แล้วไม่รู้สึกถึงความแตกต่างนึกว่าใช้ PC อยู่ เราสามารถเลือกที่จะ Deploy VMware Horizon ได้ที่ On-primes โดยใช้คู่กับระบบ vSAN HCI เพื่อตอบโจทย์เรื่อง Latency และ Security หรือเราจะไปเลือก Deploy บน Cloud อย่าง AWS หรือว่า Azure ก็ได้

3.Recover quickly from outages and disasters

Photo by Lukas from Pexels

อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่าภัยพิบัตินั้นมีหลายรูปแบบ แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นทำให้เราไม่สามารถเข้าถึง Data Center ของเราได้ และจำเป็นต้องสร้างมันกลับขึ้นมาใหม่ ถ้าระบบของเรายังต้องผูกติดกับ Infrastructure แบบเดิมที่ต้องมี Special Hardware มารองรับถึงจะกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมนั้นคงไม่ดีแน่

VMware vSAN HCI และ VMware Cloud Foundation สามารถให้เราขึ้นระบบใหม่โดยใช้แค่ x86 Server ไม่ต้องมี Special Hardware ใดๆ เพราะทุกสิ่งอย่างเป็น Software Define อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น Compute, Storage หรือว่า Network

หรือในกรณีที่เรามี Data Center หลักอยู่แล้วแต่อยากเตรียมความพร้อมในการมี Site สำรอง vSAN เป็นตัวเลือกที่ดีมาก อย่างแรกคือใช้แค่ x86 Server ทำให้ประหยัดพื้นที่ยิ่งถ้าเราไปเช่า IDC ด้วยยิ่งประหยัดไปอีก อย่างที่สองใน VMware vSphere มีแถม vSphere Replication มาให้อยู่แล้วซึ่งสามารถตั้ง RPO ได้ต่ำสุดที่ 5 นาที นั่นหมายความว่าที่ Site สำรองเรามี vSAN Node ก็พร้อมที่จะเป็น Site สำรองได้เลยทันที

Prepare for business continuity with HCI and the Hybrid Cloud

สุดท้าย ทุกธุรกิจต้องมีแผนรองรับเรื่องในเรื่องของการดำเนินธุรกิจไปได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติแบบใดก็ตาม นั่นหมายความว่าทีม IT จะต้องเลือก Solution ที่ต้องตอบโจทย์ในเรื่องความง่ายในการขยายระบบ ลดความซับซ้อนยุ่งยากในการจัดการ และยังต้องคงความสามารถในการต่อเติมต่อยอด Solution ที่เลือกไปได้ในอนาคต ซึ่ง VMware vSAN HCI เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและยังรองรับให้เราสร้าง Private Cloud และ Hybrid Cloud ได้ต่อไปในอนาคต

Analyst Reports:

Blog นี้อ้างอิงมาจาก:

3 Ways Hyperconverged Infrastructure (HCI) Enables Business Continuity

ติดตามเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ตาม Link ครับ

--

--

Phubet Pramuean
Phubet Pramuean

Written by Phubet Pramuean

สวัสดีครับ แนะนำตัวกันก่อน ผมชื่อ ภูเบศวร์ ประเหมือน ชื่อเล่นว่า ปอนด์ ครับ ตอนนี้ทำงานที่ NetApp Thailand ในตำแหน่ง Partner Technical Lead ครับ

No responses yet